วิธีทำปาท่องโก๋ โดยทั่วไปแล้วปาท่องโก๋เป็นอาหารเช้ายอดนิยมของชาวไทย มีลักษณะเป็นแป้งทอดรูปทรงคล้ายห่วง หรือจะเรียกว่า อิ่วจาก้วย ก็ได้ เชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากจีน โดยชาวจีนแต้จิ๋วนำมาเผยแพร่ในประเทศไทย คำว่า “ปาท่องโก๋” มาจากภาษาจีนแต้จิ๋วว่า “ปาท่องโก้ย” แปลตรงตัวว่า “ห่วงทอด” ซึ่งปาท่องโก๋ทำจากแป้งสาลี ยีสต์ น้ำ และเกลือ นวดจนเป็นเนื้อเนียน ตัดเป็นท่อนยาวแล้วม้วนเป็นวงกลม นำไปทอดในน้ำมันร้อนจนสุกเหลืองกรอบ มักรับประทานคู่กับโจ๊ก หรือน้ำเต้าหู้ บางครั้งอาจราดด้วยน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดง เพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
วัตถุดิบและขั้นตอนในการทำปาท่องโก๋
ส่วนผสม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 400 กรัม
- ยีสต์สด 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
- ใส่แป้งสาลี ยีสต์สด น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำอุ่นลงในอ่างผสม ผสมให้เข้ากันจนแป้งเป็นเนื้อเดียวกัน
- นวดแป้งเป็นเวลา 10 นาที หรือจนแป้งเนียนนุ่มไม่ติดมือ
- พักแป้งไว้ให้ขึ้นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือจนแป้งพองตัว
- นำแป้งที่ขึ้นแล้วมาตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 10 เซนติเมตร
- ม้วนแป้งเป็นวงกลม กดให้แป้งติดกัน
- ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนปานกลาง
- ใส่ปาท่องโก๋ลงทอดในน้ำมันร้อนจนสุกเหลืองกรอบทั้งสองด้าน
- สะเด็ดน้ำมันปาท่องโก๋ให้สะเด็ดดีแล้วเสิร์ฟคู่กับโจ๊กหรือน้ำเต้าหู้ ราดด้วยน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดง เพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
เคล็ดลับ
- เลือกใช้แป้งสาลีอเนกประสงค์ที่มีคุณภาพดี
- ยีสต์สดควรสดใหม่
- น้ำอุ่นควรใช้น้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 37 องศาเซลเซียส
- นวดแป้งให้นานพอเพื่อให้แป้งเนียนนุ่มไม่ติดมือ
- พักแป้งให้ขึ้นในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
- ทอดปาท่องโก๋ในน้ำมันร้อนปานกลาง
- สะเด็ดน้ำมันปาท่องโก๋ให้สะเด็ดดีแล้วเสิร์ฟคู่กับโจ๊กหรือน้ำเต้าหู้ ราดด้วยน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดง เพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
คุณค่าทางโภชนาการของปาท่องโก๋
ปริมาณ 100 กรัม
- พลังงาน 216 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 22.5 กรัม
- โปรตีน 3.8 กรัม
- ไขมัน 11.9 กรัม
- คอเลสเตอรอล 17 มิลลิกรัม
- โซเดียม 54 มิลลิกรัม
วิตามินและแร่ธาตุ
- วิตามินบี1 0.1 มิลลิกรัม
- วิตามินบี2 0.06 มิลลิกรัม
- วิตามินบี3 0.6 มิลลิกรัม
- วิตามินบี6 0.1 มิลลิกรัม
- วิตามินบี9 7 ไมโครกรัม
- วิตามินบี12 0.1 ไมโครกรัม
- แคลเซียม 13 มิลลิกรัม
- เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 19 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 107 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 110 มิลลิกรัม
ข้อควรระวังในการรับประทานปาท่องโก๋
ปาท่องโก๋เป็นอาหารทอดที่มีน้ำมันสูง จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้ นอกจากนี้ ปาท่องโก๋ยังอาจเป็นแหล่งของไขมันทรานส์ ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพหัวใจ หากต้องการรับประทานปาท่องโก๋ ควรเลือกรับประทานแบบที่ไม่ปรุงรสมากหรือราดด้วยน้ำตาลทรายน้อยๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ต่อไปนี้คือข้อควรระวังในการรับประทานปาท่องโก๋
- ควรรับประทานปาท่องโก๋ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรรับประทานมากเกินไป
- ควรเลือกรับประทานปาท่องโก๋ที่ทอดในน้ำมันที่สะอาดและสดใหม่
- ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปาท่องโก๋ที่ทอดซ้ำหลายครั้ง
- ควรรับประทานปาท่องโก๋ที่ปรุงรสน้อยๆ หรือราดด้วยน้ำตาลทรายน้อยๆ
- ควรรับประทานปาท่องโก๋ร่วมกับอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น โจ๊ก น้ำเต้าหู้ ผลไม้สด ผักสด เป็นต้น
หากท่านมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานปาท่องโก๋
ปาท่องโก๋ หรือที่เรียกกันว่า โดนัทจีน หรือ โยวเตียว เป็นขนมแป้งทอดยอดนิยมที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน มันยาวและกรอบด้านนอกพร้อมด้านในที่เบาและนุ่ม ปาท่องโก๋มักรับประทานกับนมถั่วเหลืองเป็นอาหารเช้าหรือเป็นอาหารริมทางแสนอร่อยในประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปาท่องโก๋
Q1 : ปาท่องโก๋เสิร์ฟแบบดั้งเดิมอย่างไร?
A1 : โดยทั่วไปปาท่องโก๋จะเสิร์ฟพร้อมกับนมถั่วเหลือง ทำให้เป็นอาหารเช้าที่ได้รับความนิยมในประเทศต่างๆ ในเอเชีย หรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มหรือน้ำจิ้มอื่นๆ ก็ได้
Q2 : ปาท่องโก๋มีส่วนประกอบอะไรบ้าง?
A2 : ส่วนประกอบหลักของปาท่องโก๋ ได้แก่ แป้งสาลี น้ำ ยีสต์ ผงฟู รูปแบบบางอย่างอาจรวมถึงนม น้ำตาล หรือเกลือในการเตรียมแป้ง
Q3 : ปาท่องโก๋ทำเองที่บ้านได้ไหม?
A3 : ใช่ ปาท่องโก๋ทำเองที่บ้านได้ เตรียมแป้งโดยผสมส่วนผสมปล่อยให้ขึ้นแล้วคลึงเป็นเส้นยาวก่อนทอดจนเหลืองกรอบ
Q4 : ปาท่องโก๋เป็นอาหารมังสวิรัติหรือไม่?
A4 : ปาท่องโก๋เป็นมังสวิรัติก็ได้ขึ้นอยู่กับสูตรที่ใช้ แม้ว่าส่วนผสมพื้นฐานจะเป็นมิตรกับมังสวิรัติ แต่รูปแบบทางการค้าหรือภูมิภาคบางอย่างอาจรวมถึงสารปรุงแต่งจากสัตว์ ดังนั้นการตรวจสอบส่วนผสมจึงเป็นสิ่งสำคัญหากคุณมีข้อจำกัดด้านอาหาร
Q5 : ปาท่องโก๋แช่แข็งแล้วอุ่นใหม่ได้ไหม?
A5 : ได้ ปาท่องโก๋สามารถแช่แข็งและอุ่นใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานแบบสดเพื่อให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด เมื่ออุ่น แนะนำให้ใช้เตาอบหรือเตาปิ้งขนมปังเพื่อคืนความกรอบ
นานาสาระ >>วิธีทำขนมบัวลอย คู่มือง่ายๆในการทำขนมบัวลอย ทำกินเองได้ที่บ้าน